วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2556

the little mermaid

         วันนี้ฉันเองก็มีนิทาน เรื่องหนึ่งที่อยากให้ทุกคนได้อ่านกัน เป็นนิทานที่เกี่ยวกับเจ้าหญิงเงือกน้อยที่หลงรักเจ้าชาย ถ้าพูดถึงเจ้าหญิงเงือกทุกคนก็จะต้องรู้จักการ์ตูนเรื่อง the little mermaid แน่นอนเลย เป็นเรื่องที่เด็กทุกคนชอบและรู้จักกันดี แต่ในวันนี้ฉันจะไม่ได้เอาเรื่องรักที่จบแบบ happy ending มาให้อ่านหรอกนะ แต่เป็นเรื่องที่จบไม่สวย แต่ถ้าใครเคยอ่านนิทานเรื่องนี้แบบต้นฉบับจริงๆของ ฮัน คริสเตียน เอดิสัน ก็จะรู้ว่ามันเศร้าเกินกว่าที่จะเป็นแค่...นิทานจริงๆ เรื่องที่เกี่ยวกับการเสียสละ เพื่อคนที่เรารักแม้ว่าเขาอาจจะไม่รู้เลยว่าคนที่คอยอยู่เคียงข้างเขามาตลอดคือใคร เรื่องนี้ฉันว่ามันเป็นนิทานที่เศร้าที่สุดเท่าที่ฉันเคยอ่านมาเลยล่ะ เหมือนเป็นความรักที่หน้านับถือเลยด้วย จนกลายมีคนนำเรื่องนี้มาสร้างเป็นหนัง การ์ตูน เหมือนของดิสนี่ แต่ของดิสนี่ เขาไม่อยากทำให้ความฝันของเด็กที่สวยงามนั้น หายไปก็เลยพยายามปรับเปลี่ยนเรื่องราวตอนจบใหม่นั้นเอง

          นานมาแล้วมีเจ้าหญิงเงือกน้อยองค์หนึ่ง ชอบว่ายลงไปใต้ก้นทะเลลึก เพื่อที่เธอจะไปนั่งดูรูปปั้นเจ้าชายหนุ่มรูปงามที่ตกลงสู่ก้นทะเลลึก ทุกวันเธอจะมาชอบนั่งดูและชื่นชมรูปปั้นนั้น และเธอก็จะจิตนาการถึงเจ้าชายในฝันของเธอ จนวันหนึ่งเมื่อเธออายุครบที่จะสามารถขึ้นไปบนผิวน้ำได้แล้ว  เธอก็ว่ายขึ้นไปบนผิวน้ำ เธอได้เห็นเจ้าชายรูปงามเหมือนรูปปั้น ที่กำลังอยู่บนเเรือ จากนั้นก็มีพายุลูกใหญ่พัดถล่มเรือจนเรือล่ม เจ้าชายได้ตกจากเรือและจม เจ้าหญิงเงือกน้อยเลยรีบว่ายดำลงไปช่วยเจ้าชาย และนำตัวเขาไปวางไว้ที่ชายฝั่ง จูบแรกของเธอทำให้เจ้าชายรู้สึกตัวและมีสติตื่นขึ้นมา จากนั้นเธอก็รีบลงน้ำเพื่อที่ไม่อยากจะให้เขาได้เห็นตัวจริงของเธอ  ด้วยความรักที่เธอมีต่อเจ้าชายที่เธอรัก เธอตัดสินใจไปหาแม่มดแห่งท้องทะเล เพราะเธอต้องการขาของมนุษย์เพื่อที่จะสามารถเดินไปหาเจ้าชายได้ และได้อยู่ข้างๆเจ้าชาย เธอยอมแลกด้วยเสียงอันไพเราะของเธอกับขา แต่มีข้อแม้อยู่อย่างหนึ่งว่า ถ้าเธอไม่สามารถทำให้เจ้าชายรักเธอได้ เธอจะต้องกลายเป็นฟองอากาศหายไปในทะเลชั่วนิรันดร์ แต่เธอก็ยอมรับขอแม้นั้นแต่โดยดี  จากนั้นแม่มดก็ให้น้ำยาวิเศษให้เธอกิน พอเธอกินเข้าไปก็ไม่รู้สึกตัวอีก เธอมารู้สึกตัวอีกทีก็อยู่ในอ้อมแขนของเจ้าชายที่เธอรักแล้ว  เจ้าชายช่วยเธอเอาไว้และเลี้ยงดูเธอ เอ็นดูเธอ และให้เธออยู่เคียงข้างเขาตลอดเวลา เหมือนแบบที่เจ้าหญิงเงือกน้อยต้องการ ถึงแม้ว่าเธอจะพูดไม่ได้ แต่มันก็เป็นการทรมานเธออย่างมาก เพราะทุกๆก้าวที่เธอเดินมันจะเจ็บปวดเหมือนเดินบนพื้นที่เต็มไปด้วยหนามและเศษแก้ว
ไม่เป็นไร เธอทนได้เพื่อเจ้าชายที่เธอรัก
เจ้าชายชอบดูเธอเต้นรำ  เธอก็เต้นรำให้เจ้าชายดูถึงแม้จะเจ็บเหมือนมีมีดกรีด
ไม่เป็นไร  เธอทนได้เพื่อเจ้าชายที่เธอรัก
ถึงจะเจ็บปวดมากแค่ไหน แต่เธอก็ยิ้มออกมาด้วยหัวใจที่มีความสุขกับความเจ็บปวดนั้น
          จนวันหนึ่งเจ้าชายได้ตัดสินใจว่าจะแต่งงานกับเจ้าหญองต่างแดนที่เขาคิดว่าเป็นคนที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้เมื่อคราวเรือล่ม
เจ้าหญิงเงือกน้อยเสียงใจมากแต่เธอก็ไม่สามารถที่จะพูดออกไปได้ เธอรู้แล้วว่าเวลาของเธอเหลืออยู่ไม่มากเพราะฉะนั้นเธอเลยต้องการที่จะอยู่กับเจ้าชายมากที่สุดเท่าที่เธอยังมีเวลา ถึงจะเพียงน้อยนิดก็ยังดี
........ณ วันแต่งงาน...........
คืนนี้เป็นคืนสุดท้ายของเธอแล้ว เธอไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากเฝ้ามองดูเจ้าชายที่กำลังมีความสุขกับคนที่เขารัก จากนั้นเองพี่สาวเจ้าหญิงเงือกน้อยได้รู้เรื่องราวทั้งหมด จึงเอาเส้นผมที่สวยงามนั้นไปแลกกับมีดวิเศษและนำเอามาให้เจ้าหญิงเงือก และบอกกับเธอว่า ถ้าเจ้าหญิงเอามีดกรีดหัวใจเจ้าชายเจ้าหญิงก็จะกลับมาเป็นนางเงือกอีกครั้งหนึ่ง เจ้าหญิงรับมีดนั้นจากมือพี่สาวมา เธอถือมีดเล่มนั้นเข้าไปในห้องนอนของเจ้าชาย เธอมองดูเจ้าชายที่หลับใหลอย่างมีความสุขกับคนที่เขารัก เธอจูบเขาเบาๆเพื่อการบอกลา แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะฆ่าเจ้าชายลงได้ เธอจึงตัดสินใจกระโดดลงทะเลอันมืดมิดและสลายกลายเป็นฟองอากาศในทะเลไปโดยไม่ห้วนกลับคืนมา

มันเป็นความรักที่น่าเศ้า ที่ทำทุกอย่างเพื่อที่จะอยู่กับคนที่เรารักแต่เขากลับไม่รับรู้สิ่งที่เราทำเลยว่าเรารักเขามากแค่ไหน แม้ถึงจะมีความแค้น ที่สามารถทำร้าย ทำลาย เขาได้ แต่กลับเลือกที่จะไม่ทำ เพราะว่ารักเขามากจนเสียสละตัวเอง ถึงแม้จะรู้ดีว่าต้องสลายหายไปพร้อมกับความเจ็บปวดก็ยอม

**นิทานเรื่องนี้ผู้แต่ง ฮัน คริสเตียน เอดิสัน ได้นำเรื่องจริงของความรูสึกที่ไม่สมหวังในความรักมาแต่งเป็นเรื่อง the little mermaid นี้


       

1 ความคิดเห็น: